สหพันธ์ฟุตบอลสเปน (RFEF) ได้ยืนยันการเลือกสนามสำหรับการแข่งขันฟุตบอลโลก 2030 โดยคัดเลือกจาก 13 สนามเดิม และตัดสนามเอสตาดิโอ เด เมสตาย่า ของเมืองบาเลนเซีย และสนามอาบังก้า บาไลโดส ของเมืองบีโก้ออกไป เนื่องจากไม่สามารถการันตีได้ว่าจะเป็นไปตามข้อกำหนดตามรายงานจากมาร์ก้า
RFEF ได้เสนอชื่อ 13 สนามสำหรับจัดการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายปี 2030 เช็คผลบอลและโปรแกรมได้ที่นี่ ผลบอลเมื่อคืน ซึ่งสเปนจะเป็นเจ้าภาพร่วมกับ โปรตุเกส, โมร็อกโก, อาร์เจนตินา, อุรุกวัย และ ปารากวัย กระทรวงกีฬาและ RFEF ได้ตัดสินใจเลือก 11 สนามที่กระจายอยู่ใน 7 แคว้น ประกอบด้วย:
1. ซานติอาโก้ เบร์นาเบว กับ ซีบีตาส เมโตรโปลีตาโน่ (แคว้นมาดริด)
2. คัมป์ นู กับ สเตจ ฟรอนท์ สเตเดี้ยม (แคว้นกาตาลุนย่า)
3. กราน กานาเรีย (แคว้นกานาเรียส)
4. เรอาเล่ อาเรน่า กับ ซาน มาเมส (แคว้นบาสก์)
5. รีอาซอร์ (แคว้นกาลีเซีย)
6. โรมาเรด้า (แคว้นอารากอน)
7. โรซาเลด้า กับ ลา การ์ตูฆา (แคว้นอันดาลูเซีย)
กระทรวงกีฬาและ RFEF มีความเห็นตรงกันว่า สนามซานติอาโก้ เบร์นาเบว จะเป็นสนามสำหรับนัดชิงชนะเลิศของศึกฟุตบอลโลก 2030
การตัดสนามของเมืองบาเลนเซียออกจากการเป็นเจ้าภาพร่วมสร้างความประหลาดใจให้กับหลายคน เนื่องจากบาเลนเซียเป็นเมืองที่มีประชากรมากสุดอันดับ 3 ของสเปน ปัญหานี้เกิดจากการเจรจาระหว่างสภาเมืองบาเลนเซียกับทีมค้างคาวเกี่ยวกับการสร้างสนามนู เมสตาย่า ซึ่งถูกแช่แข็งมาตั้งแต่ปี 2009 เนื่องจากปัญหาทางการเงิน แม้ว่าจะได้รับการอนุมัติให้ดำเนินการก่อสร้างต่อ แต่ดูเหมือนว่าพวกเขาจะไม่สามารถแก้ปัญหาได้ทันเวลา